การขนส่งสินค้าอันตรายเบื้องหลังการขนส่งสินค้าอันตรายหนึ่งในบริการสำคัญที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมของไทย
ดูเหมือนจะทุกวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทย ล้วนต้องใช้วัตถุอันตราย เป็นสารเริ่มต้นในขั้นตอนการผลิต ซึ่งโดยมากจำต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อนำมาผลิต ผสม ประกอบ กับวัตถุดิบหรือสารตั้งต้นในประเทศ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในแนวทางการผลิตมีความมากมายหลายมาก ดังเช่นว่า อุตสาหกรรมสี เครื่องแต่งหน้า ยากำจัดแมลงและยาฆ่าแมลง ผงชูรส เป็นต้น
(https://i.imgur.com/S3Tyadd.png)
เข้าไปอ่านรายละเอียดได้จาก >> การขนส่งสินค้าอันตราย https://www.scgjwd.com/th/services/logistic-and-supply-chain/b2b-integrated-logistics/1697441373
เริ่มแรกพวกเรามารู้ถึงความหมายของคำว่า "ผลิตภัณฑ์อันตราย" คือ ข้าวของหรือวัตถุ ที่มีคุณลักษณะทางเคมี หรือ ทางกายภาพโดยตัวของมันเอง หรือเมื่อสัมผัสกับสารอื่น ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินหรือต่อสิ่งแวดล้อม ดังที่เจาะจงไว้ใน IMDG
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวพันกับการขนส่งสินค้าอันตรายมีกี่ชนิด
1 วัตถุระเบิด
2 แก๊สไวไฟ
3 ของเหลวไวไฟ
4 ของแข็งไวไฟ สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง และสารที่สัมผัสกับน้ำแล้วนำไปสู่ก๊าสไวไฟ
5 วัตถุออกซิไดซ์และก็วัตถุอินทรีย์เปอร์ออกไซด์
6 วัตถุเป็นพิษแล้วก็วัตถุติดเชื้อ
7 วัตถุกัมมันตรังสี
8 วัตถุกัดเซาะ
9 วัตถุอันตรายต่างๆที่อยู่นอกจากทั้ง 8 จำพวก ข้างต้น
ในการนำเข้าและก็ส่งออกผลิตภัณฑ์อันตรายในประเทศไทยกว่า 70% จะขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบังเป็นหลัก เพราะเหตุว่าเป็นท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญที่สุดของเมืองไทยรวมทั้งเป็นท่าจอดเรือที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยี มีมาตรการบริหารความปลอดภัยเทียบเท่าสากล เพราะฉะนั้นในทุกกิจกรรมซัพพลายเชนที่เกี่ยวพันกับสินค้าอันตรายไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ ใส่ ขนส่ง จำเป็นต้องใช้ความระแวดระวังมหาศาล หากว่าสินค้าอันตรายนั้นจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่อาจส่งผลให้มีอันตรายต่อชีวิต เงินทอง สิ่งแวดล้อม ก็เลยมีการออกกฎ ระเบียบปฏิบัติ กฎเกณฑ์ต่างๆเพื่อควบคุมในเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อคุ้มครองปกป้องความทรุดโทรมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งระเบียบข้อบังคับดังกล่าวข้างต้นนั้นสอดคล้องกับกฎระเบียบที่ใช้กันระหว่างชาติเป็นสหประชาชาติ มีการออกข้อเสนอในการขนส่งสินค้าอันตราย (https://www.scgjwd.com/th/services/logistic-and-supply-chain/b2b-integrated-logistics/1697441373) รวมทั้งได้ระบุจำนวนที่เรียกว่า UN number เพื่อใช้แทนชื่อผลิตภัณฑ์อันตรายที่มีการขนส่งอยู่บ่อยมาก หน่วยงานทางทะเลระหว่างชาติ หรือ IMO มีการออกข้อปฏิบัติรวมทั้งข้อที่ควรปฏิบัติระหว่างชาติ
(https://i.imgur.com/HcWQUhj.png)
การขนส่งสินค้าอันตราย ภายในท่าเรือแหลมฉบัง
ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อันตรายกรอกข้อมูลลงในระบบเครือข่ายข้อมูลและการสื่อสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก การจัดเก็บ และการขนส่งสินค้า ล่วงหน้าราว 1 อาทิตย์ ซึ่งประกอบด้วย ชื่อสาร ชื่อผู้นำเข้าส่งออก รวมทั้งขั้นตอนการจัดแจงกับสารเมื่อเกิดเหตุรีบด่วน เมื่อทีมงานโกดังได้รับข้อมูลจะผสานไปยังท่าเรือต่างๆเพื่อสำรวจสถานะตู้ผลิตภัณฑ์อันตรายตามข้อมูลที่ได้รับ ถ้าหากข้อมูลถูก จะทำการส่งรถหัวลากเพื่อไปรับตู้สินค้าข้างลำเรือ โดยไม่อาจจะวางพักสินค้าอันตรายที่ท่าเรือได้ระหว่างรอคอยขนส่งไปยังกุดังอันตราย เมื่อรถยนต์ขนส่งรับตู้สินค้าอันตรายเป็นระเบียบเรียบร้อย จะขนส่งมาจัดเก็บที่ท่าสินค้าอันตรายโดยทันทีซึ่งควรจะมีการเตรียมตัวพื้นที่สำหรับจัดเก็บอย่างปลอดภัย รถขนส่งวัตถุอันตรายควรมีลักษณะสภาพตัวรถยนต์ ส่วนประกอบและวัสดุอุปกรณ์ความปลอดภัยตามเกณฑ์ควบคุมมาตรฐานของลูกค้าหรือที่กฎหมายกำหนด มีสัญญาประกันภัยความทรุดโทรมของวัตถุอันตรายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ มีระบบการควบคุมทางในรถยนต์ขนส่งทุกคัน ด้วย GPS Tracking ซึ่งไม่แค่เพียงแสดงตำแหน่ง ทาง หรือการควบคุมความเร็วเพียงแค่นั้นแต่ยังสามารถย้อนดูประวัติและก็อัพเดทข้อมูลการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานขับรถทุกคนควรจะมีเอกสารสิทธิ์จำพวกที่ 4 ผ่านการตรวจสอบประวัติความเป็นมา ได้รับการตรวจสภาพร่างกาย เพื่อความพร้อมเพรียงสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน และได้รับการอบรมการขับขี่เพื่อให้มีความปลอดภัยแล้วก็การอมรมการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเบื้องต้น
วิธีการขนส่งสินค้าอันตรายอย่างมั่นอกมั่นใจแล้วก็ไม่มีอันตราย
1. คลังสำหรับเก็บสินค้าจะต้องได้มาตฐานตามกรมโรงงานอุตสาหกรรม
2. มีระบบระเบียบคุ้มภัยและก็เรื่องฉุกเฉินในกรณีเกิดเหตุรั่วไหลของสารเคมีหรือสินค้าอันตรายได้แก่ ระบบโฟมอัดแรงดันสูง ฝาผนังกันไฟ ระบบประตูกันไฟอัตโนมัติ เครื่องตรวจควันหรือเปลว หรือระบบแจ้งเตือนเมื่อุณหภูเขาไม่ภายในห้องเปลี่ยน (ในกรณีสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์อันตรายที่จะต้องเก็บในห้องควบคุมอุณหภูมิ)
3. มีระบบระเบียบซอฟแวร์สำหรับจัดการทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่จัดเก็บ เริ่มตั้งแต่ระบบจัดเก็บฐานข้อมูลสินค้าอันตราย การจัดสรรพื้นที่สำหรับการจัดเก็บสารเคมีแต่ละชนิดออกมาจากกัน เนื่องด้วยสารเคมีบางประเภทจะทำปฎิกิริยาเคมีต่อกันซึ่งบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายได้
4. การเจาะจงตำแหน่งตู้สารเคมีด้วย GPS รวมถึงการขนส่งสินค้าอันตราย เพื่อปิดโอกาสความบกพร่องที่อาจเกิดจากคน
5 มีนักเคมีที่ช่ำชอง สามารถให้คำปรึกษา หรือจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์อันตรายประเภทต่างๆ
6. มีกลุ่มเร่งด่วน 24 ชม. ที่สามารถเข้าจัดแจงเรื่องฉุกเฉินได้อย่างทันการ
ระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อันตรายเป็นข้อมูลที่มีค่ามาก
เนื่องจากการจัดเก็บรวมทั้งขนส่งสินค้าอันตรายนั้นต้องดำเนินการอย่างรอบครอบ ระแวดระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของ ชีวิต เงินทอง แล้วก็สภาพแวดล้อม ด้วยเหตุดังกล่าวข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อันตรายที่ขนส่งนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังจะมองเห็นได้จากเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบัง ช่วงวันที่ 25 เดือนพฤศจิกายน 2552 เนื่องจากไม่มีข้อมูลของผลิตภัณฑ์อันตรายที่บรรจุอยู่ในตู้ผลิตภัณฑ์ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะกระทำการระงับเหตุ เพราะสารเคมีบางชนิดเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วจะมีผลให้มีการเกิดระเบิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนั้นถ้าหากทราบข้อมูลที่ต้องได้ทันคัดค้านที ก็จะสามารถจัดแจงได้อย่างถูกแนวทางและก็ทันท่วงที เพื่อบรรเทาหรือนิยามเสียหายที่เกิดขึ้น
SCGJWD Logistic ผู้ประกอบกิจการรายเดียวที่ให้บริการบริหารรับภาระหนี้สินอันตราย ขนส่งผลิตภัณฑ์อันตราย ภายใต้การกำกับดูแลของท่าเรือแหลมฉบัง ปฏิบัติภารกิจบริหารจัดการตู้ผลิตภัณฑ์ ทั้งนำเข้าและส่งออก 100% ที่ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ด้วยมาตรฐานการจัดการระดับสากลแล้วก็ตามประกาศโรงงานอุตสาหกรรม
ในฐานะผู้บริหารแบกรับหนี้สินอันตราย SCGJWD จึงสร้างสรรค์ของใหม่บริหารจัดการผลิตภัณฑ์อันตรายแบบครบวงจร (DG Total) เพื่อเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลสินค้าอันตรายจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวเนื่อง กับ การขนส่งสินค้าอันตราย ประกอบด้วยซอฟต์แวร์บริหารจัดการตู้สินค้าตามคลาสที่ระบุ ระบบ GPS สำหรับเพื่อการหาพิกัดตู้สินค้าอันตราย และศูนย์ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์อันตราย ซึ่งมีนักเคมีและก็กลุ่มโต้ตอบเหตุฉุกเฉิน 24 ชม.
(https://i.imgur.com/WjrSjy3.png)
Website: บทความ การขนส่งสินค้าอันตราย https://www.scgjwd.com/th/services/logistic-and-supply-chain/b2b-integrated-logistics/1697441373