• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะเหตุใด ? รักษาได้อย่างไร ?

Started by Hanako5, January 06, 2023, 11:15:01 PM

Previous topic - Next topic

Hanako5

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที ด้วยเหตุว่าแม้ปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และก็โรคมะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าเกิดคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้ยังไงว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? รวมทั้งควรดูแลบำรุงยังไง..? บทความนี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) รวมทั้งยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด เช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารแล้วก็เกลือแร่ไว้ในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารประเภทไขมัน แล้วก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง อาหารและก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบพบเจอปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีสาเหตุมาจากการกระทำทำร้ายตับได้แก่
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานหนัก มีความเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการออกกำลังกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารตอนเช้า
9.ชอบกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
10.ทำงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.ร่วมเพศโดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เช่น มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย , มีปัญหาสำหรับในการนอน , ท้องเฟ้อบ่อยๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารลดลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯแม้คุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่มีความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีถ้าหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเพิกเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะถ้าเกิดตับอักเสบซ้ำๆกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสแทนน้ำตาลแล้วก็ผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ขณะที่กำลังทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามเดิม เพิ่มเติมคือหากรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำเป็นยาก ลองมามองเทคนิคน่าสนใจ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องใหญ่" อาหารที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็ก่อกำเนิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. แล้วก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับการลดไขมันในคนที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่คุ้นหูใครหลายคน แต่ว่ามันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถปกป้องและก็ลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่เอาชีวิตคนประเทศไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอความเห็นผู้ชำนาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความชำนาญรวมทั้งเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในตลอดเวลา