Main Menu

poker online

ปูนปั้น

✨การเจาะดิน✨ สิ่งจำเป็น 📌แต่คนมองข้าม ทำไมต้องเจาะสำรวจดิน?👉

Started by deam205, July 25, 2024, 02:42:12 AM

Previous topic - Next topic

deam205

🛒👉🥇โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้าน อาคารต่าง ๆ⚡ ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาแนะนำ⚡ แต่ผู้รับเหมาบางราย🌏ต้องการลดค่าใช้จ่าย🦖 (ผมขอย้ำว่าบางราย ไม่ใช่ทุกรายนะครับ🎯) ก็จะตัดการทดสอบที่ตนเห็นว่าไม่จำเป็นออกไป📢 ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่มักถูกตัดออกคือการเจาะสำรวจดิน🌏 ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง✨ ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร🎯



🥇🛒📌👉ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน🦖👉📢🌏🦖

1. ทำให้เราทราบประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง👉 เพื่อประเมินลักษณะเชิงกล🦖 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม📢 หากดินแข็งพอ อาจเลือกใช้เป็นฐานแผ่📌
2. ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง)👉 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อการคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🦖 และการประเมินความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม📢
3. การลดข้อผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม🛒 หากพบชั้นดินแข็งที่ไม่หนาในความลึกที่น้อย🎯 อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว📌 แต่ที่จริงสามารถตอกต่อไปได้อีกเล็กน้อย⚡
4. หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก✅ วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจหลายหลุมเพื่อเปรียบเทียบ✨ อาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิดเพื่อก่อสร้างอาคารนั้น ๆ🎯

🥇🛒📌📢วิธีการเจาะสำรวจดินที่นิยม🎯🥇🛒📌📢

1. การเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะแบบ Motorized Drilling Rig🦖
เป็นเครื่องเจาะสำรวจดินที่สามารถขนย้ายเข้าจุดเจาะสำรวจดินได้แบบไม่ยุ่งยาก✅ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของทีมเจาะสำรวจดิน✨ ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวก📢 และประหยัดเวลาในการติดตั้ง✅ ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะแบบฉีดล้าง (Wash Boring)✨ ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำและหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)🥇 ต่อจากแท่งเจาะ✨ ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ📌 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดินด้วยเครื่องกว้าน✨ จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ🛒 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในชั้นดินเหนียวอ่อน🛒 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในชั้นดินแข็ง📌 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง Casing🌏 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง🦖 เพื่อป้องกันการพังทลาย🥇 และใช้ Bentonite Slurry🥇 ช่วยกันดินพังในชั้นทราย🥇 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50👉

2.การเจาะสำรวจดินด้วย Rotary Drilling✅
สามารถเจาะสำรวจดินได้กับทุกสภาพชั้นดิน✅ เป็นลักษณะของเครื่องเจาะสำรวจดินที่มีประสิทธิภาพสูง👉 ด้วยระบบไฮดรอลิก👉 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคน🦖 สามารถเจาะได้ลึกกว่า 40 เมตร🛒 โดยใช้เครื่องยนต์ (Rotary Drilling Rig)✅ ที่ส่งกำลังปั่นหัวเจาะลงไปลึกในระดับความเร็วที่ต้องการ🦖 ดินจะถูกปั่นขึ้นมาตาม (flight auger)📌
วิธีนี้เครื่องยนต์ใช้กำลังบิดสูง🌏 ดังนั้นจึงมักเจาะช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร⚡ แล้วยกหัวเจาะขึ้นนำดินออก🦖 แล้วเจาะต่อไปอีก 1.5 เมตร✅ จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก👉 การใช้หัวเจาะผนวกกับการเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง📌 หรือการเจาะด้วยความเร็วสูง⚡ ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ🥇 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง📌 เพื่อพาดินตัดขาดแล้วกลับขึ้นมาที่ผิวดิน🎯 เศษดินหรือหินจะถูกส่งขึ้นมาด้วยน้ำจากก้นหลุมเจาะด้วยหัวฉีดที่อยู่บริเวณหัวเจาะ✨ ในดินแข็งหลุมที่เจาะจะเปิดไม่พังทะลาย👉

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand✅ ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย👉 หรือใช้ drilling mud (น้ำผสมสาร Bentonite)📢 ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุมเจาะ⚡ นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พัง ยังช่วยพาเศษวัสดุขึ้นมาด้วย🛒 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องใช้หัวเจาะเพชรเพื่อตัดชั้นหินและเก็บตัวอย่างหิน🥇 จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)🦖